เวลาพูดถึงเรื่องไฟฟ้าในบ้าน หลายคนมักสงสัยว่าทำไมต้องมีคำว่า ‘เฟส’ เข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วไฟฟ้า 1 เฟส คืออะไร แม้จะคุ้นหูกับคำนี้ แต่อาจยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง วันนี้ Leetech จะอธิบายระบบไฟฟ้าพื้นฐานที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด เพื่อให้เลือกใช้ไฟฟ้าในบ้านได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย
ระบบไฟฟ้า 1 เฟส คือระบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่มีแรงดันไฟฟ้าประมาณ 220 – 230 โวลต์ และมีความถี่ 50 เฮิรตซ์ (Hz) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปในบ้านพักอาศัยและอาคารขนาดเล็กในประเทศไทย หรือพูดง่าย ๆ คือระบบไฟฟ้าที่เราใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ ตั้งแต่หลอดไฟ พัดลม ตู้เย็น โทรทัศน์ ไปจนถึงเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กนั่นเอง
โดยทั่วไป ระบบไฟฟ้า 1 เฟส คือระบบที่เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้าน จะมีส่วนประกอบของสายไฟที่สำคัญอยู่ไม่กี่เส้น ซึ่งจำนวนเส้นแตกต่างกันไปตามมาตรฐานในการติดตั้ง
ในระบบเก่าหรือบางพื้นที่ อาจพบการเดินสายไฟแบบ 2 เส้น ประกอบด้วย
สำหรับบ้านที่สร้างใหม่หรือมีการปรับปรุงระบบไฟฟ้าตามมาตรฐานปัจจุบัน จะเป็นระบบไฟฟ้า 1 เฟส 3 เส้น โดยเพิ่มสายดิน (Ground – G) เข้ามาอีกหนึ่งเส้น นอกเหนือจากสายไลน์ (L) และสายนิวทรัล (N)
ซึ่งสายดินมีความสำคัญมากในการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว เพราะจะนำกระแสไฟฟ้าที่รั่วไหลลงดิน ทำให้เครื่องตัดไฟอัตโนมัติทำงาน ช่วยปกป้องผู้อยู่อาศัยและอุปกรณ์ไฟฟ้า ทั้งนี้ การติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ดีควรเป็นไปตามมาตรฐานการเดินสายไฟในราง เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานนั่นเอง
ระบบไฟฟ้า 1 เฟส เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไป คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ ร้านค้าขนาดเล็ก สำนักงานขนาดเล็ก ที่ไม่ได้มีการใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องการกำลังไฟสูงมาก และยังรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนส่วนใหญ่ เช่น หลอดไฟ พัดลม โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้าและเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก คอมพิวเตอร์ ก็ล้วนออกแบบมาให้ใช้งานกับระบบไฟฟ้า 1 เฟสได้เป็นอย่างดี
ความแตกต่างหลักระหว่างไฟฟ้า 1 เฟสกับ 3 เฟส อยู่ที่จำนวนชุดของสายไฟฟ้าและแรงดันไฟฟ้า
วิธีสังเกตง่าย ๆ คือดูที่มิเตอร์ไฟฟ้าหน้าบ้าน ถ้าเป็นมิเตอร์ขนาดเล็กทั่วไป และมีสายไฟเข้ามิเตอร์ 2 เส้น (ไม่นับสายดินที่อาจแยกต่างหาก) หรือดูที่เบรกเกอร์หลักในตู้ไฟฟ้าในบ้าน
สำหรับแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ส่วนใหญ่ที่ใช้ตามบ้าน มักจะออกแบบมาให้รองรับระบบไฟฟ้า 1 เฟสได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือขนาดของมิเตอร์ไฟฟ้าและสายไฟ ที่ต้องเพียงพอต่อการใช้งานของแท่นชาร์จ
นอกจากนี้ แท่นชาร์จบางรุ่นอาจต้องการกระแสไฟสูง (เช่น 32 แอมป์) ดังนั้น อาจจะต้องมีการขอเพิ่มขนาดมิเตอร์ หรือเดินสายไฟเฉพาะสำหรับแท่นชาร์จ หรือหากบ้านของคุณใช้งานระบบไฟ 3 เฟสอยู่แล้ว ก็สามารถเลือกติดตั้งแท่นชาร์จที่รองรับ 3 เฟส เพื่อการชาร์จที่เร็วขึ้นได้ แต่สำหรับบ้านทั่วไป การใช้ไฟฟ้า 1 เฟสกับ EV Charger ก็เพียงพอ
โดยทั่วไป บ้านที่ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ หากเป็นบ้านพักอาศัยทั่วไปที่ใช้ระบบไฟฟ้า 1 เฟส ก็จะติดตั้งอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ที่แปลงไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์เป็นไฟฟ้า 1 เฟส เพื่อให้ใช้งานร่วมกับระบบไฟฟ้าเดิมในบ้านได้เลย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นระบบ 3 เฟส ยกเว้นกรณีที่เป็นบ้านขนาดใหญ่มาก หรือมีการใช้ไฟฟ้าสูง และระบบเดิมเป็น 3 เฟสอยู่แล้ว ก็อาจจะเลือกใช้อินเวอร์เตอร์แบบ 3 เฟส เพื่อให้เหมาะสมกัน
และสำหรับบ้านที่ต้องการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์นั้น หากบ้านของคุณใช้งานไฟฟ้า 1 เฟส จะสามารถติดตัั้งโซลลาร์เซลล์ได้สูงสุด 5 กิโลวัตต์ และหากเป็นระบบไฟฟ้า 3 เฟส จะสามารถติดตัั้งโซลลาร์เซลล์ได้ 10 กิโลวัตต์ขึ้นไป
ไฟฟ้า 1 เฟส คือระบบไฟฟ้าที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านพักอาศัยทั่วไป ด้วยแรงดันไฟประมาณ 220 – 230 โวลต์ เหมาะสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป เช่น หลอดไฟ พัดลม ตู้เย็นหรือเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก โดยระบบนี้มีทั้งแบบเดินสาย 2 เส้น และ 3 เส้น ซึ่งจะแตกต่างจากระบบไฟฟ้า 3 เฟสที่ให้กำลังไฟสูง เหมาะกับการใช้งานในอาคารขนาดใหญ่หรือโรงงาน
แต่สำหรับการใช้งานไฟฟ้าทั่วไปที่บ้าน ไฟฟ้าเฟส 1 ก็ถือว่า เพียงพอต่อการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปในชีวิตประจำวันแล้ว อย่างไรก็ตาม หากต้องการติดตั้งอุปกรณ์ที่ต้องการกำลังไฟมากขึ้น เช่น แท่นชาร์จรถ EV หรือแผงโซลาร์เซลล์ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมก็จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า ระบบไฟฟ้าในบ้านของคุณพร้อมรองรับและสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยเสมอ