บทความ

รู้ไว้ปลอดภัยกว่า! มาตรฐานสีสายไฟ มีสีอะไรบ้าง และมีความสำคัญอย่างไร

มาตรฐานสีสายไฟ มีสีอะไรบ้าง

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก โดยเฉพาะเรื่องของระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ดังนั้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานของสีสายไฟจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันคือตัวบ่งชี้สำคัญที่ช่วยให้เราแยกแยะประเภทของสายไฟ และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ บทความนี้ Leetech จะพาคุณไปทำความรู้จักกับมาตรฐานสีสายไฟ ว่ามีสีอะไรบ้าง และมีความสำคัญอย่างไร เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล  

มาตรฐานสีสายไฟ สำคัญอย่างไร 

การกำหนดสีของสายไฟ ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่เป็นมาตรฐานสากลที่ออกแบบมา เพื่อความปลอดภัยเป็นหลัก สีของสายไฟช่วยให้ช่างไฟฟ้าและแม้แต่เจ้าของบ้านทั่วไปสามารถระบุหน้าที่ของสายไฟแต่ละเส้นได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง เช่น สายไฟเส้นไหนเป็นสายสำหรับกระแสไฟฟ้า (สาย Line) สายไหนเป็นสายนิวทรัล (Neutral) และสายไหนเป็นสายดิน (Ground) นอกจากนี้ยังช่วยลดความผิดพลาดในการติดตั้ง ซ่อมแซม หรือบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้หรือแม้แต่ไฟฟ้าช็อตได้  

มาตรฐานสีสายไฟ ตาม มอก. 11-2553 มีอะไรบ้าง 

ประเทศไทยได้กำหนดมาตรฐานสีสายไฟตาม มอก. 11-2553 หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สายไฟฟ้าหุ้มฉนวนพอลิไวนิลคลอไรด์ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนดไม่เกิน 450/750 โวลต์ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ต้องยึดถือปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย โดยสีสายไฟหลัก ๆ ที่ใช้ตามมาตรฐานนี้ มีดังนี้

สีสายไฟตามมาตรฐาน มอก

  • สีน้ำตาล ใช้สำหรับสาย Line หรือสายเฟส 1
  • สีดำ ใช้สำหรับสาย Line หรือสายเฟส 2 (ในระบบ 3 เฟส)
  • สีเทา ใช้สำหรับสาย Line หรือสายเฟส 3 (ในระบบ 3 เฟส)
  • สีฟ้า ใช้สำหรับสายนิวทรัล (Neutral) หรือสายศูนย์
  • สีเขียวแถบเหลือง ใช้สำหรับสายดิน (Ground) 

ระบบไฟฟ้าเฟสต่าง ๆ ใช้สายไฟสีอะไรบ้าง

การเลือกใช้สีสายไฟให้ถูกต้องตามระบบไฟฟ้าแต่ละประเภทเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันความสับสนและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ มาดูกันดีกว่าว่าสายไฟสีไหน ใช้กับระบบไฟฟ้าเฟสไหนบ้าง ดังนี้ 

1. มาตรฐานสีสายไฟ ระบบไฟฟ้า 1 เฟส

สำหรับระบบไฟฟ้า 1 เฟส ซึ่งเป็นระบบที่ใช้กันทั่วไปในบ้านเรือนหรืออาคารขนาดเล็ก จะใช้สายไฟหลัก ๆ 3 สี ได้แก่

  • สาย Line ใช้สายสีน้ำตาล
  • สายนิวทรัล (Neutral) ใช้สายสีฟ้า
  • สายดิน (Ground) ใช้สายสีเขียวแถบเหลือง  

2. มาตรฐานสีสายไฟ ระบบไฟฟ้า 3 เฟส

ระบบไฟฟ้า 3 เฟส มักใช้ในอาคารขนาดใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่ต้องการกำลังไฟฟ้าสูง ซึ่งจะมีการใช้สายไฟที่หลากหลายสีมากขึ้น เพื่อแยกเฟสและหน้าที่ของสายไฟแต่ละเส้นได้อย่างชัดเจน

  • สาย Line เฟส 1 ใช้สายสีน้ำตาล
  • สาย Line เฟส 2 ใช้สายสีดำ
  • สาย Line เฟส 3 ใช้สายสีเทา
  • สายนิวทรัล (Neutral) ใช้สายสีฟ้า
  • สายดิน (Ground) ใช้สายสีเขียวแถบเหลือง 

ใช้สีสายไฟผิดมาตรฐาน ผิดกฎหมายหรือไม่ และมีผลอย่างไร 

การใช้สีสายไฟผิดจากมาตรฐานสีสายไฟที่กำหนดไว้นั้น ถือเป็นการกระทำที่ผิดมาตรฐานความปลอดภัยทางไฟฟ้า ซึ่งแม้จะไม่ได้ระบุโทษทางกฎหมายอย่างชัดเจนในทุกกรณี แต่หากเกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุจากการใช้สายไฟผิดสี ผู้รับผิดชอบอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้ เช่น ข้อหาประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายหรือเสียชีวิต

ผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุด คือการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ไฟฟ้าช็อต ไฟไหม้หรือไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งอาจนำไปสู่ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน นอกจากนี้ การใช้สีสายไฟผิดยังทำให้การบำรุงรักษา หรือการซ่อมแซมระบบไฟฟ้าในอนาคตเป็นไปได้ยากและอันตรายยิ่งขึ้น เพราะช่างจะไม่สามารถแยกแยะหน้าที่ของสายไฟแต่ละเส้นได้ถูกต้อง  

จะเลือกชนิดและขนาดของสายไฟให้เหมาะสมกับงานได้อย่างไร

การเลือกชนิดและขนาดของสายไฟให้เหมาะสมกับงานเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้า โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ 

เลือกสายไฟอย่างไรให้เหมาะสมการใช้งาน

  • ประเภทของโหลด อุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละชนิดใช้กระแสไฟฟ้าไม่เท่ากัน ควรเลือกสายไฟที่สามารถรองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุดของอุปกรณ์นั้น ๆ ได้
  • กระแสไฟฟ้าสูงสุด คำนวณกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่จะไหลผ่านสายไฟ เพื่อเลือกขนาดสายไฟที่เหมาะสม
  • ระยะการเดินสายไฟ ระยะทางที่ยาวขึ้นอาจทำให้แรงดันตก ควรเลือกสายไฟที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อลดการสูญเสียพลังงาน
  • สถานที่ติดตั้ง การติดตั้งภายในอาคาร ภายนอกอาคารหรือในบริเวณที่มีความชื้นสูง ต้องเลือกชนิดของสายไฟที่มีฉนวนและคุณสมบัติเหมาะสม
  • ข้อกำหนดของมาตรฐาน ปฏิบัติตามมาตรฐาน มอก. สำหรับสายไฟฟ้าและข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งท่อเดินสายไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • ประเภทของระบบไฟฟ้า เช่น ไฟฟ้า 1 เฟส คือระบบที่ใช้ในบ้านทั่วไป ต้องการสายไฟ 3 เส้น ในขณะที่ระบบ 3 เฟส ต้องการสายไฟมากกว่า

อย่างไรก็ตาม หากไม่แน่ใจว่า จะเลือกชนิดและขนาดของสายไฟอย่างไร แนะนำให้ปรึกษาช่างไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน   

สายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก. ดูอย่างไร และอันตรายแค่ไหน? 

สายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก. คือสายไฟที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามข้อกำหนดของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ซึ่งอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่ง สัญญาณที่บ่งบอกว่าสายไฟอาจไม่ได้มาตรฐาน มอก. ได้แก่

  • ราคาถูกผิดปกติ สายไฟที่ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ อาจบ่งชี้ว่าใช้วัสดุที่ด้อยคุณภาพ
  • ฉนวนสายไฟบางหรือเปราะ คุณภาพของฉนวนต่ำ ทำให้ฉีกขาดง่าย หรือไม่ทนทานต่อความร้อน
  • ตัวนำไฟฟ้าไม่เต็มหน้าตัด สายไฟบางเส้นอาจมีขนาดตัวนำทองแดงไม่เต็มตามที่ระบุ ทำให้รองรับกระแสไฟฟ้าได้น้อยกว่าที่ควร
  • มีน้ำหนักเบากว่าปกติ อาจมีปริมาณทองแดงในสายไฟน้อยกว่ามาตรฐาน
  • ไม่มีเครื่องหมาย มอก. มาตรฐาน มอก. เป็นสิ่งสำคัญที่บ่งบอกว่าสายไฟนั้นผ่านมาตรฐานหรือไม่ 

สายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก. มีอันตรายอย่างมาก เพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้หรือไฟฟ้าช็อตได้ง่ายกว่าสายไฟที่ได้มาตรฐาน เนื่องจากไม่สามารถทนทานต่อกระแสไฟฟ้า ความร้อน หรือสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดีเท่าที่ควร  

หากเจอสายไฟในบ้านเป็นสีตามมาตรฐานเก่า ควรทำอย่างไร? ต้องเปลี่ยนทั้งหมดหรือไม่?

หากคุณพบว่าสายไฟในบ้านยังคงใช้สีตามมาตรฐานเก่า เช่น สาย Line เป็นสีแดง สีเหลือง สีน้ำเงินหรือสายนิวทรัลเป็นสีดำ สิ่งที่ควรทำคือ

  • ตรวจสอบและทำเครื่องหมาย ควรให้ช่างไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบระบบไฟฟ้าทั้งหมด และทำเครื่องหมายระบุหน้าที่ของสายไฟแต่ละเส้นให้ชัดเจน เพื่อป้องกันความสับสนในการซ่อมบำรุงในอนาคต
  • พิจารณาเปลี่ยนเฉพาะส่วนที่จำเป็น ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสายไฟทั้งหมดในทันที หากระบบไฟฟ้ายังทำงานได้ปกติและไม่มีสัญญาณของความเสียหาย อย่างไรก็ตาม หากมีการปรับปรุง ซ่อมแซมหรือเพิ่มวงจรไฟฟ้าใหม่ ควรเปลี่ยนไปใช้สายไฟตามมาตรฐาน มอก. 11-2553
  • ปรึกษาช่างไฟผู้เชี่ยวชาญ หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาช่างไฟฟ้าที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินสภาพระบบไฟฟ้าและวางแผนการปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย  

สีสายไฟทำให้ช่างไฟทำงานง่ายขึ้น

สรุปบทความ 

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานสีสายไฟ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความปลอดภัยให้กับบ้านและผู้อยู่อาศัย การเลือกใช้สายไฟที่ถูกต้องตามมาตรฐาน มอก. และการติดตั้งโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยลดความเสี่ยงจากอันตรายต่าง ๆ ที่เกิดจากระบบไฟฟ้าได้อย่างมีนัยสำคัญ  

Leetech ในฐานะผู้จำหน่ายอุปกรณ์ในงานระบบไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยสูงสุดสำหรับบ้านของคุณ อย่ามองข้ามเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ เพราะความปลอดภัยของคุณและคนที่คุณรักคือสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด