การติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานนั้น งานเดินท่อร้อยสายไฟก็ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟและอำนวยความสะดวกในการซ่อมบำรุงในอนาคต ในบทความนี้ Leetech จะพาคุณไปทำความรู้จักกับท่อร้อยสายไฟ คืออะไร มีกี่ชนิด ท่อแต่ละสีที่เราเห็นกันบ่อย ๆ แตกต่างกันอย่าง รวมถึงข้อควรพิจารณาก่อนเริ่มเดินท่อสายไฟ ในบ้านหรืออาคารของคุณกัน
ท่อร้อยสายไฟ (Electrical Conduit) คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับห่อหุ้มและป้องกันสายไฟฟ้าจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น ความชื้น ความร้อน การกระแทกหรือการกัดแทะจากสัตว์ต่าง ๆ ซึ่งการเดินไฟร้อยท่อเป็นวิธีที่ได้มาตรฐานและถูกกำหนดโดยวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ ท่อร้อยสายไฟยังช่วยจัดระเบียบการเดินสายไฟให้เป็นระบบ ง่ายต่อการบำรุงรักษาและสวยงามกว่าการเดินสายไฟแบบเปลือยอีกด้วย
โดยทั่วไปแล้ว ท่อร้อยสายไฟสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามวัสดุที่ใช้ผลิต ได้แก่ โลหะและพลาสติก ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
ท่อพลาสติกที่ใช้ในงานเดินท่อสายไฟ ส่วนใหญ่ผลิตจาก PVC (Polyvinyl Chloride) หรือ PE (Polyethylene) ซึ่งมีคุณสมบัติ เป็นฉนวนไฟฟ้า น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ท่อประเภทนี้นิยมใช้ในงานติดตั้งไฟฟ้าในบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน หรือพื้นที่ที่ไม่มีความเสี่ยงจากอันตรายทางกายภาพมากนัก ข้อควรระวังคือท่อพลาสติกไม่ทนต่อความร้อนสูงและแรงกระแทกรุนแรง
ท่อ PVC ผลิตจาก Polyvinyl chloride เป็นท่อพลาสติกใช้ในการเดินร้อยสายไฟอย่างแพร่หลาย มีคุณสมบัติเด่นเป็นฉนวนไฟฟ้า คงรูปดีทำให้สะดวกในการยึดเกาะติดตั้งแบบฝังผนังหรือแบบลอยบนผนังได้และไม่ลามไฟซึ่งเป็นลักษณะเด่นกว่าท่อพลาสติกชนิดอื่น อีกทั้งท่อ PVC มีผิวเงางามสวยงามกว่าพลาสติกอื่นและมีราคาประหยัด
ท่อ HDPE หรือที่มักเรียกว่าท่อ PE เป็นท่อพลาสติกชนิดที่มีความหนาแน่นสูง มีคุณสมบัติเด่น คือความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทกและแรงกดทับได้ดีกว่าท่อ PVC นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อสารเคมี และทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะแสงแดด (UV) จึงนิยมใช้สำหรับงานเดินสายไฟภายนอกอาคาร งานฝังดิน หรือในพื้นที่ที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ เช่น งานร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน งานร้อยสายเคเบิลสื่อสาร ท่อ HDPE มักมีสีดำ และมีความยืดหยุ่นช่วยให้การติดตั้งในพื้นที่โค้งงอทำได้ง่ายขึ้น
ท่อ FLEX หรือท่ออ่อนลูกฟูก เป็นท่อพลาสติกที่มีลักษณะเป็นลอนคลื่น ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถดัดโค้งงอได้ตามต้องการ ผลิตจากวัสดุหลากหลาย เช่น PVC (Polyvinyl Chloride) หรือ PA (Polyamide) ท่อชนิดนี้นิยมใช้ในงานที่ต้องการความคล่องตัวในการเดินสายไฟ เช่น การเดินสายไฟเข้าเครื่องจักร การเดินสายไฟในพื้นที่แคบหรือซับซ้อน หรือบริเวณที่มีการสั่นสะเทือน ท่อ FLEX ช่วยป้องกันสายไฟจากความเสียหายทางกายภาพและความชื้นได้ในระดับหนึ่ง และติดตั้งได้ง่ายกว่าท่อชนิดแข็งในบางสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการป้องกันแรงกระแทกอาจน้อยกว่าท่อชนิดแข็ง และอาจมีข้อจำกัดในการใช้งานตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้า
ท่อร้อยสายไฟแบบโลหะมักผลิตจากเหล็กชุบสังกะสี (Galvanized Steel) หรืออะลูมิเนียม ซึ่งมีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกและความร้อนสูง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่ที่ต้องการมาตรฐานความปลอดภัยสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม อาคารสูง หรือจุดที่มีความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้ ท่อโลหะมีหลากหลายประเภท โดยแต่ละแบบจะเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันตามระดับความแข็งแรง น้ำหนักและสภาพแวดล้อมของพื้นที่ติดตั้ง ดังนี้
ท่อโลหะขนาดบาง (EMT) เป็นท่อที่มีผนังบางที่สุดในบรรดาท่อโลหะทั้งหมด มีน้ำหนักเบาและติดตั้งได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับงานติดตั้งภายในอาคารที่ไม่มีแรงกระแทกมาก เช่น เดินสายไฟบนผนังหรือฝ้าเพดาน ท่อ EMT ไม่สามารถทำเกลียวที่ปลายท่อได้ จึงต้องใช้ข้อต่อเฉพาะ เช่น แบบบีบอัด (Compression Fitting) หรือแบบขันสกรู (Set-Screw Fitting) อย่างไรก็ตาม ท่อชนิดนี้ไม่ควรนำไปใช้งานที่ต้องฝังในคอนกรีตหรือฝังดิน เนื่องจากไม่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือแรงกระแทกสูงได้
ท่อโลหะขนาดกลางหรือท่อ IMC มีความหนากว่าท่อ EMT แต่บางกว่าท่อโลหะหนาพิเศษ (RSC) ทำให้มีความแข็งแรงทนทานมากกว่า สามารถทนต่อแรงกระแทกได้ดีขึ้น และสามารถทำเกลียวที่ปลายท่อได้เหมือนท่อ RSC ท่อ IMC มักใช้เป็นทางเลือกแทนท่อ RSC ในหลาย ๆ กรณี เนื่องจากมีน้ำหนักเบากว่า ติดตั้งง่ายกว่า และมีราคาถูกกว่า แต่ยังคงให้การป้องกันสายไฟที่ดี สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงสามารถฝังในผนังคอนกรีตได้
ท่อโลหะหนาพิเศษ (RSC) เป็นท่อที่มีผนังหนาที่สุด มีความแข็งแรงทนทานสูงสุด สามารถป้องกันสายไฟฟ้าจากความเสียหายทางกายภาพได้ดีเยี่ยม ปลายท่อเป็นเกลียวเพื่อใช้ต่อกับข้อต่อเกลียวต่าง ๆ เหมาะสำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมหนัก บริเวณที่อาจมีสารเคมีกัดกร่อนหรือพื้นที่อันตราย (Hazardous Locations) งานเดินสายไฟนอกอาคาร และหากมีการเคลือบป้องกันสนิมแล้วก็สามารถฝังดินได้โดยตรง
ท่อโลหะอ่อน หรือท่อเฟล็กซ์ (Flex) มีลักษณะเป็นโลหะที่ขดเป็นเกลียวต่อเนื่อง ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถโค้งงอได้ง่าย เหมาะสำหรับใช้งานในบริเวณที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเดินสาย เช่น งานเดินสายไฟเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการสั่นสะเทือน เช่น มอเตอร์ งานเดินสายในพื้นที่แคบหรือซับซ้อนที่ยากต่อการดัดท่อแข็ง หรืองานเดินสายเข้าโคมไฟฝังฝ้า
ท่อโลหะชนิดอ่อนกันน้ำ มีลักษณะคล้ายกับท่อ FMC แต่มีเปลือกนอกหุ้มด้วยวัสดุกันน้ำ ส่วนใหญ่มักผลิตมาจาก PVC ทำให้สามารถป้องกันของเหลว ความชื้นและฝุ่นละอองได้ เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่เปียกชื้น พื้นที่ภายนอกอาคารหรือบริเวณที่อาจสัมผัสกับน้ำมันและสารเคมีบางชนิด
ท่อร้อยสายไฟ PVC ที่นิยมใช้กันทั่วไปมี 2 สีหลัก ได้แก่ สีขาวและสีเหลืองนั้น มีคุณสมบัติแตกต่างกันตามมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ซึ่งแบ่งเป็น 2 มาตรฐานหลักที่ใช้อย่างแพร่หลาย ได้แก่
ท่อร้อยสายไฟสีขาว สีเหลืองหรือสีดำ ในมาตรฐานเดียวกันจะมีคุณสมบัติเหมือนกัน สามารถเลือกใช้ท่อสีต่าง ๆ โดยพิจารณาจากปัจจัย เช่น ลักษณะการติดตั้ง ความเหมาะสมของพื้นที่สิ่งแวดล้อม หรือสไตล์การตกแต่งของอาคารเป็นหลัก
ท่อร้อยสายไฟถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ดังนั้นจึงควรเลือกประเภทท่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นท่อโลหะหรือท่อพลาสติก ท่อสีขาวหรือท่อสีเหลือง ล้วนส่งผลต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งานระยะยาว แม้งานเดินท่อร้อยสายไฟ จะมีต้นทุนและความซับซ้อนมากกว่า แต่ข้อดีในด้านความปลอดภัยและความสะดวกในการบำรุงรักษาคุ้มค่ากับการลงทุน Leetech เป็นผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าพลาสติกคุณภาพสูง พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกใช้ท่อร้อยสายไฟที่เหมาะสมกับโครงการของคุณ เพื่อให้งานระบบเดินท่อสายไฟเป็นไปอย่างปลอดภัย ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพสูงสุด